พระชัยวัฒน์ซำปอกง รุ่นแรก วัดพนัญเชิงวรวิหาร กรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อโต หรือ ซำปอกง ที่คนไทย และไทยเชื้อสายจีนนับถือนั้นมีอยู่แค่ 3 องค์ในเมืองไทย
องค์หนึ่งอยู่ที่นี่คือ หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.อยุธยา อีกหนึ่งองค์คือ หลวงพ่อโต ซำปอกง วัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ องค์นี้สร้างสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ รัชกาลที่ 3 ส่วน
องค์สุดท้ายนั้น สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 โดยขุนนางเชื้อสายจีน ซึ่งจำลององค์มาจากซำปอกง วัดพนัญเชิง
หลวงพ่อโต หรือ ซำปอกง นั้นตามความเชื่อแล้วมีความศักดิ์สิทธิ์มากๆ โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มาสักการะบูชา จะทำให้ทำมาค้าขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าอยู่ว่าในสมัยอยุธยาในครั้งที่อหิวาตกโรค หรือ “โรคห่า” ระบาดหนัก ชาวบ้านไม่มีที่พึ่ง ไม่มียารักษาโรค ก็อาศัยการบนบาน และนำขี้ธูปที่มาจุดถวายหลวงพ่อกลับไปกินเป็นยารักษาตัวแล้วหายป่วย ผู้คนก็เลยศรัทธานับถือสืบต่อกันมา
"พระชัยวัฒน์" เป็นพระพุทธรูปขนาดเล็กที่นิยมสร้างคู่กันมากับ"พระกริ่ง" แต่จะมีขนาดเล็กกว่าเพื่อสำหรับไว้บูชาติดตัว
"พระชัย" หรือ "พระไชย" เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บุญญาธิการแห่งองค์พระมหากษัตริย์มาแต่อดีตกาลมีปรากฏในพระราชพงศาวดารตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชโดยกล่าวกันว่าตำนานการสร้างเป็นของ "สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว" ที่เรียกว่าพระชัยเพราะมีความหมายว่า "ชัยชนะ"
อันหมายถึงการมีชัยชนะเหนือข้าศึกศัตรูเนื่องด้วยแต่เดิมมีความมุ่งหมายเพื่ออัญเชิญไปในกองทัพยามออกศึกสงครามและมักสร้างเป็นพระพุทธรูปปามารวิชัย อันหมายถึงปราบมารได้ชัยชนะ
นอกจากนี้จะอัญเชิญเข้าร่วมในมณฑลพิธีสำหรับพระราชพิธีสำคัญๆอาทิ
- พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา,พระราชพิธีโสกันต์,พระราชพิธีสัมพัจฉรฉิน์
- พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาและพระราชพิธีราชาภิเษกเป็นต้น
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระชัยขึ้นเรียกว่า "พระชัยหลังช้าง" หรือ "พระชัยเล็ก"
หลังจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระชัยอีกองค์หนึ่งคู่กับพระชัยหลังช้างเรียกว่า "พระชัยประจำรัชกาล" หรือ "พระชัยใหญ่"
และกลายเป็นโบราณราชประเพณีสืบมาของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทุกพระองค์เว้นเพียงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลซึ่งอาจเป็นด้วยเวลา
เมื่อมีงานพระราชพิธีจะใช้พระชัยประจำรัชกาลที่5 แทน
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ออกพระนามเพิ่มจาก "พระชัย" หรือ "พระไชย" ว่า "พระไชยวัฒน์"
ด้วยคำว่า "วัฒน์" หมายถึงความยั่งยืนและสืบเนื่องไม่หยุดยั้งต่อมาได้เปลี่ยนพระนามเป็น "พระชัยวัฒน์" ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
และก็มีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายๆรูปหลายๆสำนักที่นิยมสร้างพระชัยวัฒน์สืบมา
พระชัยวัฒน์ซำปอกง รุ่นแรก วัดพนัญเชิงวรวิหาร กรุงเก่า ใต้ฐานตอกโค๊ด