พิธีมหามงคลพุทธาภิเษก 8 วาระ ประกอบด้วยพิธีขอพรศักดิ์สิทธิ์ ณ สถานที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับตำนานพญานาค เช่น ภูผายล จ.สกลนคร, ถ้ำแกลบ จ.สกลนคร, วัดถ้ำพวง จ.สกลนคร, อาศรมปู่ฤาษีบัวลัย จ.สกลนคร, พระอินทร์แปลง(ปู่อินทร์) จ.นครราชสีมา
รวมทั้งยังได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก 3 วาระ
วาระที่ 1 ณ.พระอุโบสถวัดถ้ำพวง (ถ้ำมุจจลินท์) จ.สกลนคร
วาระที่ 2 ณ.พระอุโบสถ วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยาฯ
วาระที่ 3 ณ.มูลนิธิพระมหามงคลพุทธนิมิตฯ จ.อยุธยาฯ
"พระพุทธมุจจลินท์รักษ์ธนทวี" มีความหมายอันเป็นมงคลอย่างยิ่ง อาจารย์พิชิต ศรีแจ้งรุ่ง ตั้งใจจะสื่อความหมายถึง พระพุทธรูปที่บูชาปกป้องภยันตรายและบูชาเพื่อความอุดมสมบูรณ์เพิ่มพูนของทรัพย์สินเงินตราต่าง
การออกแบบพุทธศิลป์พระนาคปรก โดยอาจารย์ ธานี ชินชูศักดิ์(จิด.ตระ.ธานี)ศิลปินฉายา "จตุรงคธาตุ" ที่มีลายเส้นเคลื่อนไหวดุจมีชีวิต และผลิตด้วยเทคโนโลยีจิวเวลรี่ชั้นสูงประกอบแยก 3 ชิ้นส่วนจึงได้ความงดงามครบทุกรายละเอียด เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจพุทธประวัติที่ว่า
หลังจากพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงประทับนั่งอยู่ภายใต้ "ต้นจิก" หรือ "ต้นมุจจลินท์" ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้ๆ กับต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระองค์ตรัสรู้ ในขณะที่พระองค์นั่งเสวยวิมุตติสุขอยู่นั้น ฝนเกิดตกลงมาอย่างหนัก
พญามุจจลินท์นาคราช ได้ออกมาจากนาคพิภพ เมื่อทรงเห็นดังนั้นก็รู้ว่าผู้ที่ประทับนั่งอยู่ด้วยอาการอย่างนั้น คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พญามุจจลินท์นาคราชจึงมีดำริว่า ฝนและลมหนาว หรือสัตว์ทั้งหลาย อย่าได้ถูกต้องพระวรกายของพระพุทธเจ้าเลย ทันใดนั้นท่านจึงวางขนดเป็น 7 รอบพร้อมแผ่พังพานอารักขาพระพุทธองค์จากสายฝน ลมหนาว และสัตว์ทั้งหลาย
เมื่อล่วงไป 7 วัน พระพุทธองค์ทรงออกจากฌาณสมาบัติแห่งการเสวยวิมุตติสุข และฝนได้หยุดตกแล้ว พญามุจจลินท์นาคราชก็ได้คลายขนดออก พร้อมกับจำแลงแปลงตนเป็นมาณพหนุ่มเข้าไปกราบถวายบังคมพระพุทธเจ้า ลำดับนั้น พระพุทธองค์ทรงเปล่งพุทธอุทานใจความว่า "ความสุขที่แท้ เกิดจากการไม่เบียดเบียนกันและกัน"