พระสมเด็จนันทโก พระมหาเทียม นันทโก
ปี 2535 "พระมหาเทียม นันทโก" ซึ่งในสมัยนั้นท่านดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม ก็ได้จัดสร้างพระพิมพ์ "สมเด็จนันทโก" ย้อนยุคสมเด็จบางขุนพรหม ซึ่งการจัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จ นันทโกรุ่นนี้ ถือได้ว่าเป็นพระพิมพ์ที่มีมวลสารของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) กรุบางขุนพรหมผสมไว้มากที่สุด
หลังจากการเปิดกรุพระสมเด็จบางขุนพรหม เมื่อปี 2500 ซึ่งก็ได้ผงเก่าจากกรุพระสมเด็จบางขุนพรหม ซึ่งอธิษฐานจิตปลุกเสกโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) รวมกับผงจากพระเก่าที่ "หลวงตาพัน วัดใหม่อมตรส" ได้เก็บรักษาไว้ และพระพิมพ์ต่างๆ ของหลวงตาพันจำนวนมาก ผนวกกับผงพระสมเด็จบางขุนพรหม รุ่นปี 2509 และรุ่นปี 2517
หากจะเอ่ยถึง "พระมหาเทียม" หรือ "หลวงตาเทียม" นักสะสมที่ติดตามเรื่องราวของ "พระสมเด็จบางขุนพรหม" ก็คงจะคุ้นเคยชื่อเสียงเรียงนามท่านเป็นอย่างดีว่า พระสมเด็จบางขุนพรหมทุกรุ่นหลังจากปี 2500 เป็นต้นมา พระมหาเทียมจะเป็นผู้ร่วมจัดทำขึ้นแทบทั้งนั้น
นอกจากนี้ "พระสมเด็จนันทโก" ยังได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก 3 พิธีใหญ่
ครั้งแรกจัดขึ้น ณ มณฑลพิธีวัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพ มหานคร
ครั้งที่ 2 ณ มณฑลพิธีวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย จัดขึ้นที่มณฑลพิธีวัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพมหานคร
สิ่งที่สำคัญซึ่งนับว่าเป็นความพิเศษของ "พระสมเด็จนันทโก" ก็คือได้รับปลุกเสกเดี่ยวอีก 2 ครั้ง
โดยครั้งแรกก็คือ "หลวงพ่อแพ" วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี พระเกจิอาจารย์ผู้คลุกคลีและศึกษาเกี่ยวกับพระสมเด็จจนแตกฉาน เรียกได้ว่าเป็นผู้รู้เรื่องเกี่ยวกับพระสมเด็จมากที่สุดท่านหนึ่งเลยทีเดียว
อีกครั้งหนึ่งก็เป็น "หลวงพ่อคูณ" วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ซึ่งท่านนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยตัวเอง จึงทำให้ในวงการนักสะสมพระสายบางขุนพรหมเชื่อกันว่าพระพิมพ์สมเด็จนันทโกรุ่นนี้ใช้แทนพระสมเด็จรุ่นปี 2509 ได้อย่างมั่นใจ
"พระพิมพ์สมเด็จนันทโก" ย้อนยุคบางขุนพรหม หลังจากที่แจกให้แก่ผู้ร่วมทำบุญเมื่อปี 2535 แล้ว
พระส่วนหนึ่ง "หลวงตาเทียม" ได้บรรจุไว้ในซุ้มเสมาลูกนิมิต หน้าอุโบสถวัดเทพคงคา นับเป็นเวลาร่วม 17 ปีแล้ว
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2552 หลวงตาเทียมก็ได้ทำพิธีเปิดกรุพระพิมพ์สมเด็จนันทโกอีกครั้ง เพื่อสมนาคุณให้ผู้ร่วมทำบุญสร้างกุฏิวัดเทพคงคา แต่ว่าก็มีไม่มากนัก เนื่องจากพระส่วนใหญ่ชำรุดเสียหายจากสภาพความร้อน และความชื้นจึงทำให้พระติดกันเป็นก้อน
สาเหตุนี้เองที่ทำให้พระที่เปิดกรุครั้งนี้สภาพผิวทั่วไปขององค์พระมีคราบกรุติดด้วย ดูแล้วเข้มขลังดีและสวยงามมาก ประกอบด้วย พระพิมพ์สมเด็จนันทโก พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย และมีบางส่วนเป็นพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2531 มี พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์ฐานแซม พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร เป็นต้น
***ขณะนี้ พระที่นำออกมาจากกรุจ่ายไปหมดแล้ว
"พระสมเด็จนันทโก" ถือเป็นพระในตระกูลพระสมเด็จวัดระฆัง โฆสิตาราม และวัดบางขุนพรหม เพราะมีส่วนผสมของชนวนมวลสารเก่าของ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)จำนวนมาก พุทธคุณจึงไม่แตกต่างกับพระสมเด็จรุ่นเก่าราคาแพงๆ เหมาะสำหรับนักสะสมที่เบี้ยน้อยหอยน้อย ที่อยากมีพระสมเด็จราคาเบาไว้ขึ้นคอสักองค์