

เหรียญสมเด็จญาณสังวรณ์ฯ สมเด็จพระสังฆราช ครบ ๑๙ ปี แห่งการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๙(ทองแดง)ปี51 วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(เจริญ สุวฑฺฒโน)เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2532 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เจริญ คชวัตร เป็นพระนามเดิมของสมเด็จพระสังฆราช
ประสูติเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2456 เป็นบุตรคนโตของ นายน้อย คชวัตร และ นางกิมน้อย คชวัตร ชาวจังหวัดกาญจนบุรี พระองค์ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระญาณสังวร ซึ่งเป็นราชทินนามที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดฯ ให้ตั้งขึ้นใหม่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงปฏิบัติบำเพ็ญต่อพระศาสนา ประชาชน และชาติบ้านเมืองเป็นอเนกประการ ซึ่งจะขอยกมาพอสังเขป ดังนี้
ในด้านการพระศาสนา คือ การสั่งสอนพุทธบริษัททั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต พระองค์ได้ทรงปฏิบัติเป็นกิจวัตรสม่ำเสมอ นับแต่ประทานพระโอวาทสั่งสอนพระภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ในฐานะพระอุปัชฌาย์ ทั้งในพรรษกาล และนอกพรรษกาลตลอดปีโดยมิได้ว่างเว้น จนกระทั่งพระชราพาธมาขัดขวาง จึงได้ทรงยับยั้งอยู่ในสุขวิหารธรรม ทั้งได้ประทานพระธรรมเทศนาประจำวันธรรมสวนะในวันเดือนเพ็ญและวันเดือนดับ ประทานธรรมกถาในการฝึกปฏิบัติอบรมจิต หรือที่เรียกกันว่า "สอนกรรมฐาน" แก่สาธุชนทั่วไปเป็นประจำทุกวันพระและหลังวันพระ ด้วยความใส่พระทัยตลอดมา
ในฐานะองค์ประมุขแห่งสังฆมณฑล ได้เสด็จไปทรงปฏิบัติพระศาสนกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งระอุด้วยชีวิตภัยในสงบเย็นด้วยธรรมานุภาพเป็นประเดิม ต่อแต่นั้นก็ได้เสด็จไปทรงปฏิบัติพระศาสนกิจและเยี่ยมเยียนพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วพระราชอาณาจักรเป็นประจำทุกปี มิได้ว่างเว้น อันเป็นโอกาสให้ได้ทรงทราบสภาพการณ์ของคณะสงฆ์และบ้านเมืองทั้งในทางวัฒนะและหายนะ ซึ่งเป็นทางให้ทรงพระดำริในอันที่จะทรงอนุเคราะห์ สงเคราะห์แก่พุทธบริษัททั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตตลอดถึงประชาชนทั่วไปในท้องถิ่นนั้นๆ
ในด้านการประกาศเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระองค์ก็ทรงพระดำริริเริ่มกิจการในอันที่จะทำให้พระพุทธศาสนาแผ่ไพศาลไปยังนานาประเทศ เพื่ออำนวยสันติสุขแก่ชาวโลก เริ่มแต่ทรงเป็นประธานกรรมการอำนวยการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เสด็จไปดูการพระศาสนาและการศึกษาในประเทศต่างๆ ทั้งในทวีปยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย อันเป็นเหตุให้ทรงดำเนินงานพระธรรมทูตต่างประเทศ และสร้างวัดพระพุทธศาสนาขึ้นในประเทศต่างๆ เป็นครั้งแรก ในด้านการส่งเสริมการศึกษา ทรงเป็นผู้ร่วมดำริและผลักดันให้เกิดมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก นั่นคือ สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ซึ่งต่อมาเรียกว่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ทั้งได้เป็นอาจารย์รุ่นแรก รวมถึงทรงพระดำริส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ขยายการศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก รวมทั้งประทานทุนการศึกษาแก่พระภิกษุให้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในต่างประเทศ
ในด้านสาธารณูปการ ได้ทรงก่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียนวัดบวรนิเวศ 2 หลัง อาคารเรียนโรงเรียนวัดเทวสังฆาราม จังหวัดกาญจนบุรี อาคารเรียนโรงเรียนญาณสังวร จังหวัดยโสธร โรงเรียนสมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งได้ประทานทุนการศึกษาแก่เด็กเรียนดีแต่ยากจนเป็นจำนวนมาก
ในด้านสาธารณสุขและสาธารณกุศล เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงอำนวยการก่อสร้างตึก ภปร ตึกวชิรญาณวงศ์ และตึกวชิรญาณ สามัคคีพยาบาร ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทรงอำนวยการสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต พร้อมทั้งพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราช ณ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โปรดให้สร้างโรงพยาบาลวัดญาณสังวราราม จังหวัดชลบุรี
ส่วนพุทธสถานอื่นๆ ได้ทรงอำนวยการสร้างวัดพุทธวิมุติวนาราม (วัดพุมุด) อำเภอไทรโยค วัดรัชดาภิเษก อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี วัดวังพุไทร จังหวัดเพชรบุรี วัดญาณสังวราราม จังหวัดชลบุรี วัดล้านนาญาณสังวราราม จังหวัดเชียงใหม่ พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย รวมทั้งโปรดให้แกะสลักพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ณ เขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี
สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์ ในวันที่ 24 ต.ค.พ.ศ.2556 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เนื่องจากมีอาการติดเชื้อในกระเเสพระโลหิต
เหรียญพระรูปเหมือน สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวาระครบปีที่ 19 แห่งการสถาปนา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันที่ 21 เมษายน 2551 นี้ วัดบวรนิเวศวิหาร และคณะกรรมการโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับสนองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช จัดบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระกุศล ในวันที่ 20 เมษายน 2551 มีการบำเพ็ญกุศลถวายเป็นทักษิณานุประทานถวายสมเด็จพระบูรพาจารย์ สมเด็จพระสังฆราชทั้ง 19 พระองค์ และพระบูรพาจารย์ ที่พระตำหนักเพ็ชร วันที่ 21 เมษายน 2551 ในวันที่ 21 เมษายน 2551 บำเพ็ญกุศลครบปีที่ 29 แห่งการสถาปนา และทรงเสด็จวางศิลากฤษ์สร้างอาคารที่พักสงฆ์ที่คณะสูง (นานาชาติ) และเปิดนิทรรศการ พระประวัติ พระศาสนกิจ พระเกียรติคุณ สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้ง 19 พระองค์ ที่พระตำหนักเพ็ชร พระตำหนักเดิม ในตลอดเดือนเมษายน 2551
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับการบำเพ็ญพระกุศลไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะกรรมการโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับประทานอนุญาตให้จัดสร้างสิ่งมงคลสักการะในวาระครบปีที่ 19 แห่งการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ประกอบด้วย เหรียญพระรูปเหมือน และพระพิมพ์สมเด็จหลังมีลายเซ็นพระนาม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จสสังฆราช เป็นที่ระลึก และตอบแทนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสมทบทุนการบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามและสร้างกุฏิที่พักสงฆ์ 4 ชั้น กำหนดประกอบพิธีพุทธาภิเษก มังคลาภิเษก วันที่ 21 เมษายน 2551 เวลา ๑๖.๐๐ น. ถึง ๑๙.๓๐ น. ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
เหรียญพระรูปเหมือน สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(21 เมษายน 2532 - 2551)ปีแห่งการสถาปนา ครบปีที่ 19 แห่งการสถาปณาพระสังฆราช พระองค์ที่ 19
เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างเพียง 3 เนื้อ คือ ทองคำ เงิน และทองแดง
เหรียญสมเด็จญาณสังวรณ์ฯ สมเด็จพระสังฆราช(ทองแดง)จัดสร้าง 202,551 เหรียญ ขนาดเหรียญ สูง 3 ซม. กว้าง 2.3 ซม.