พระสมเด็จบางขุนพรหม(พิมพ์ใหญ่เกศเอียงแช่น้ำมนต์ 1 ไตรมาส)รุ่นย้อนยุค ปี47 วัดบางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร(โค้ดตรายาง พร้อมกล่องผ้าไหม)
วัตถุประสงค์ : เพื่อนำรายได้ร่วมสร้างองค์พระจำลองของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)โดยทำการประดิษฐานไว้ที่ วัดตาลเจ็ดยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ หลวงปู่โต ได้ทำการกราบไหว้บูชา สักการะเพื่อเป็นสิริมงคล
เปิดตำนาน สร้างพระสมเด็จบางขุนพรหม รุ่นย้อนยุค 2547 ขึ้นชื่อว่า "พระสมเด็จ" ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)ถือเป็นสุดยอดแห่งพระเครื่อง เพราะมีทั้งพุทธานุภาพและอิทธิปาฏิหาริย์เหนือว่าคณาจารย์ใดๆ ทั้งหมด ทรง อิทธิฤทธิ์สารพัดอย่าง สามารถป้องกันสรรพอันตรายทั้งหลายทั้งปวง ป้องกันภัยพิบัตินานาชนิด มีอิทธิคุณครบเครื่องทุกด้าน อาทิ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม รวมทั้งแสวงหาโชคลาภ ก็ประเสริฐสุดยิ่งนัก จะเรียกว่า "ยอดพระเครื่อง" หรือ "จักรพรรดิพระเครื่อง"
พระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่กล่าวมานี้ ผู้ที่เป็นเจ้าของครอบครองต่างก็ศรัทธาบูชากันมาก เพราะถือว่าเป็นสุดยอดแห่งพระเครื่องที่พุทธศาสนิกชนทุกรูปทุกนามใฝ่หา อยากจะเป็นเจ้าของกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม และ พระสมเด็จวัดเกศไชยโย เรียกได้ว่าทรงคุณค่าอนันต์ทั้งในแง่ของพุทธลักษณะและความเลื่อมใสศรัทธาในตัวบุคคล คือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)องค์ผู้สร้างซึ่งเชื่อว่าท่านบรรลุธรรมชั้นสูง
พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม กำเนิดโดนท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)อมตเถราจารย์ผู้ทรงคุณความศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เดิม "พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม" เป็นพระบรรจุกรุ เปิดกรุโดยจอมพลประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย ในสมัยนั้น เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2500 ได้พระชำรุดประมาณ 40,000-50,000 องค์
พระสมเด็จในสภาพสมบูรณ์ดีมีจำนวน 2,500 องค์ นอกจากนั้นเป็น ผงวิเศษพระสมเด็จ ที่จับกันเป็นก้อน ซึ่งประกอบไปด้วยผงปถมัง อิทธิเจ มหาราช พุทธคุณ และ ตรีนิสิงเห แล้ว ยังมีวัสดุบางประการ ประกอบด้วยดินโป่ง กล้วยน้ำว้า ดินสอพอง เกสร ดอกไม้ ชิ้นส่วนแตกหักของพระกรุต่างๆ เป็นต้น
ผงวิเศษ 5 ประการ มีอิทธิคุณดังนี้
1. ผงอิทธิเจ มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม ใครเห็นใครเมตตา ให้ความรักและเอ็นดู
2. ผงปัถมัง มีอานุภาพทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี จังงัง ตลอดจนการพรางตัว(หายตัว) ได้อย่างมหัศจรรย์ยิ่ง
3. ผงมหาราช มีอานุภาพทางเสน่ห์ ชายเห็นชายทัก หญิงเห็นหญิงรัก เหมาะสำหรับการค้าขาย และเข้าหาผู้ใหญ่ จะได้รับการเอ็นดูให้การส่งเสริมได้ดีในราชการและธุรกิจ
4. ผงพุทธคุณ มีอานุภาพป้องกันสิ่งอัปมงคล อาถรรพณ์และไสยศาสตร์สายดำ ป้องกันทำคุณไสย มีอิทธิพลล้ำเลิศทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ครอบคลุมไปถึงด้านเมตตามหานิยมและมหาอำนาจ
5. ผงตรีนิสิงเห มีอิทธิคุณทางด้านมหาอำนาจ สามารถล้างอาถรรพณ์ น้ำมันพราย สยบอิทธิฤทธิ์ของภูติผีปีศาจได้ดียิ่ง
โดยเฉพาะผงพุทธคุณและผงตรีนิสิงเห เป็นผงวิเศษที่เกิดขึ้นจากการใช้ดินสอพองเขียนหัวใจพระคาถาหรคุณพระพุทธวจนะต่างๆ รวมทั้งอักขระเลขยันต์ที่จารึกลงบนกระดานชนวนนั้น เป็นหัวใจพระคาถาจะทอดทิ้งลงบนพื้นดินไม่ได้ ต้องลบใส่ผอบหรือบาตรใส่น้ำพระพุทธมนต์ จึงจะเป็นการถูกต้องตามประเพณี
นี่คือกรรมวิธีสร้างตามหลักโบราณประเพณีที่มุ่งให้เกิดอิทธิคุณความเข้มขลัง เพื่อให้ได้พระเครื่องที่ทรงคุณค่ามีพุทธคุณเป็นที่พึ่งได้
พระสมเด็จบางขุนพรหม ย้อนยุค 47 นี้ ได้ใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมายในการจัดสร้าง โดยเฉพาะก้อนผงพระสมเด็จกรุใหม่ที่ขุดขึ้นมาเมื่อ พ.ศ.2500 เป็นมวลสารหลัก และก้อนผงวิเศษ 5 ประการของวัดระฆังโฆษิตาราม ที่ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิเมธี เจ้าคณะภาค 11 เก็บรวบรวมไว้ โดยผสมกับผงอิฐฐานรองพระประธานในพระอุโบสถวัดระฆังฯ อายุกว่า 200 ปี ซึ่งเชื่อกันว่าพระเถระผู้ใหญ่ของวัดระฆังฯ โดยเฉพาะสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)ประกอบพิธีอธิษฐานจิตในโบสถ์ ย่อมได้รับการลงพลังจิตไปด้วย ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หาค่ามิได้
นอกจากนี้ยังมีพระสารีริกธาตุ พระธาตุต่างๆ และมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย ทั้งไม้มงคล ไม้กาฝาก ดินโป่ง และน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดทั่วประเทศ เป็นส่วนผสมอีกด้วย
พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม รุ่นย้อนยุค2547 นี้ เป็นพระเครื่องล้อพิมพ์พระสมเด็จวัดบางขุนพรหมที่ "เสมียนครด้วง" ได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2413 และอาราธนาท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)ปลุกเสก
จำลองเอกลักษณ์ของพระพุทธรูปบูชาประทับบนอาสนะ 3 ชั้น ภายใต้ซุ้มครอบแก้ว ซึ่งมีความหมายแทน "พระพุทธเจ้า" หมายถึงการบูชาเป็นพุทธบูชาและเป็นพุทธานุสสติ
ดังนั้นผู้ใดมีไว้บูชา จะเป็นสิริมหามงคลกับตนเองเปรียบเสมือนได้อยู่ใกล้ชิดกับพระพุทธองค์ เพราะพระบรมสารีริกธาตุนี้ เปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้า
พิธีมหาพุทธาภิเษก : เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2547 เวลา 18:19 น. มีพระเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศเข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกในครั้งนี้ ที่อุโบสถวัดใหม่อมตรส หรือ วัดบางขุนพรหม
โดยพระเทพวิสุทธิเมธี(เที่ยง)วัดระฆัง เจ้าคณะภาค 11 เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
รายนามพระเกจิที่ร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก สมเด็จบางขุนพรหม ย้อนยุค มีดังนี้
1. หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา
2. หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
3. หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี
4. หลวงพ่อทอง วัดจักรวรรดิ์ กรุงเทพมหานคร
5. หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี
6. พระอาจารย์ไพโรจน์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์
7. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา
8. พระ ดร.ปรีดา ธัมญาโณ วัดใหม่อมตรส กรุงเทพมหานคร
9. หลวงพ่อเทียม วัดใหม่อมตรส กรุงเทพมหานคร
ภายหลังได้นำไปกราบนมัสการขอเมตตาจาก หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ปลุกเสกเดี่ยวอีกวาระหนึ่งด้วย วัตถุประสงค์เพื่อนำปัจจัยไปสร้างสมเด็จโตองค์ใหญ่ วัดตาลเจ็ดยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์