พระใบพุทรารี(เนื้อดินเผา)ปี52 วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา(กรอบไมครอนจากวัด)
"พระขุนแผนใบพุทรา" พระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่งของวัดใหญ่ชัยมงคล เดิมเรียกกันว่า "พระใบพุทรา" ต่อมาเปลี่ยนมาเรียกขานเป็น "พระขุนแผนใบพุทรา"
ลักษณะพิมพ์ทรงของ "พระขุนแผนใบพุทรา" จะเป็นรูปกลมรีหัวและท้ายค่อนข้างป้านคล้าย "ใบพุทรา" ตรงกลางเป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง "ปางมารวิชัย" ลักษณะ "จับเข่าใน" คือพระกรข้างขวาขององค์พระไม่ได้วางทอดหน้าพระชานุ(เข่า) แต่จะวางอยู่ด้านข้างของพระชานุ พระพักตร์เรียบเกลี้ยง ไม่ปรากฏรายละเอียดของพระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์ ปรากฏเฉพาะพระกรรณทั้งสองข้าง มีรัศมีเป็นวงกลมโดยรอบพระเศียร พระวรกายเรียบ ไม่ปรากฏเส้นสังฆาฏิ พระเพลาอยู่ในลักษณะนั่งขัดสมาธิราบ แสดงให้เห็นการซ้อนพระชงฆ์อย่างชัดเจนในลักษณะขวาทับซ้าย มีอาสนะรูปบัวคว่ำบัวหงาย มีก้านบัวปรากฏ รองรับองค์พระพุทธรูปอยู่ ใต้ฐานบัวจะมีเส้นลากต่อมา ลักษณะคล้ายกับก้านพุทรา จึงเรียกกันว่า "พระขุนแผน ใบพุทรา"
ด้านหลังจะมีลักษณะอูม มีทั้งเนื้อดินและเนื้อชินเงินเนื้อดินมีทั้งเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด แต่เนื้อหยาบพบมากกว่า
"พระขุนแผนใบพุทรา" เป็นพระเนื้อดินเผา สีขององค์พระจะออกเป็นสีแดงอ่อนบ้างแก่บ้าง บางองค์มีเนื้อละเอียด บางองค์มีเนื้อค่อนข้างฟ่าม แต่อย่างไรก็ดี พระทุกองค์ก็จะมีลักษณะเฉพาะของเนื้อดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือ จะปรากฏเม็ดกรวดเล็กๆ ซึ่งมีสีต่างๆ เช่น สีน้ำตาล สีแดง และสีขาว อยู่ในเนื้อขององค์พระไม่มากก็น้อย อีกประการหนึ่งคือ องค์พระเมื่อผ่านการใช้จะขึ้นมันและแข็งแกร่งขึ้น
"พระขุนแผนใบพุทรา" นี้ นับเป็นพระที่มีความสำคัญและมีคุณค่าอีกพิมพ์หนึ่งของอยุธยา เนื่องด้วยนอกจากจะมีการค้นพบที่วัดใหญ่ชัยมงคลแล้ว ยังพบอีกแห่งที่วัดพุทไธสวรรค์ ซึ่งทั้งสองวัดนี้เป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่โตในสมัยที่อยุธยาเป็นราชธานีทั้งสิ้น จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระเครื่องที่สร้างขึ้นโดยบุคคลสำคัญจึงได้มีการบรรจุไว้ในวัดหลวงที่สำคัญถึงสองแห่ง
กอรปกับพุทธคุณเป็นเลิศในด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดจากภยันตราย ทำให้ได้รับความนิยมและเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพิมพ์อื่นๆ ปัจจุบัน
พุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาด
ส่วนผู้หญิงจะบูชาได้ใหม ไม่มีปัญหาใช้ได้แน่นอนเพราะพระขุนแผนเป็นพระพุทธที่ปลุกเสกหรือมีพุทธานุภาพไปในทางเมตตามากกว่า
คาถาบูชาพระขุนแผน
โอมศรีศรี หน้ากูงามดั่งพระจันทราทิพบดี
ตัวกูงามดังพญาราชสีห์อันทรงศักดิ์
ใครเห็นใครรัก
ใครเห็นใครทัก
ใครเห็นใครชม ด้วยกูได้อาคมจากพระพุทธเจ้า
พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า
เอวัมเมสุตัง เอกังสะมะยัง
ปิติเสคิ อิทะคะมะ พุทธัง
งามยิ่งนักเป็นที่รักแก่คนทั้งเมือง
ธรรมังรุ่งเรืองดังประทีปแก้ว
สังฆังส่องสว่าง พราวแพรวทั่วโลกทั้งสาม
ยิ่งดูยิ่งงาม เดินตามติดมา
ด้วยพระพุทธเมตตา
พระธรรมเมตตา
พระสังฆังเมตตา
อุณาโลมมาประชายะเต
คาถาบูชาพระขุนแผน : บทนี้ ให้บูชากับพระขุนแผน ได้ทุกวัด ทุกสำนัก
คาถาหัวใจขุนแผน
นะโมโล มะยันภันเต
นะโม พุทธายะ
มะอะอุ อุอะมะ โลโมนะสุ
มะอะอุ สุนะโมโล
คาถาบูชาขุนแผนตรึงนาง
ท่องนะโม 3 จบ
โอมละลวยมหาละลวย
ชายเห็นชายงวย
หญิงเห็นหญิงหลง
มึงเห็นหน้ากูให้งวยงงจงใจรัก
จะภะกะสะภะคินี
กูจะคิดถึงสาวทั้งหลายก็มายินดี
จงมาช่วยกูอยู่พร้อมหน้า ภะคินี
กูจะคิดถึงสาวทั้งหลายก็มายินดี
จงมาช่วยกูอยู่พร้อมหน้า
ภะจะกะสะ ทั้งฝูงชนก็มาพะวักพะวงหลงรักใคร่
กูจะมารำลึกถึงเจ้าไท้ ก็มาลืมสวาทรัก
จะภะกะสะ กูจะคิดถึงสาวแท้ ก็มาลืมทั้งแม่ทั้งพ่อ
จะภะกะสะ พะวักภวังค์ให้จิตคุ้มครั่งตะลึงหลง
จะภะกะสะ โอม พระพายเจ้าเอ๋ย เจ้าจงมาชักนำ
(เอ่ยชื่อผู้ที่เราปรารถนา)มาจะภะกะสะ มหาละลวยงวยงงจงใจรักแห่งกู
จะภะกะสะ ช้างในป่าหลงรักกูก็มาลืมดง
จะภะกะสะ ผมอยู่บนหัวก็มาลืมเกล้า
จะภะกะสะ ข้าวอยู่ในคอก็มาลืมกลืนอะอึกสะอื้นมาหากู
จะภะกะสะ คิดถึงกูอยู่มิได้
อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ อาคัจฉาหิ
อาคัจฉายะ สุนะโมโลนะ โมพุทธายะ นะมะพะทะ