หมวดหมู่ | หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทฺโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ |
ราคา | 0.00 บาท |
ลงสินค้า | 29 พ.ย. 2564 |
อัพเดทล่าสุด | 13 มี.ค. 2568 |
ในปี2553 ครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ ศิษย์เอกสายครูบาศรีวิชัยรุ่นสุดท้าย อายุวัฒนมงคล 104 ปี
หลวงปู่ครูบาดวงดี ได้มรณภาพเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เมื่อเวลา 06.40 น. ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ สิริอายุรวม 103 ปีเศษ พรรษา 83
วัตถุประสงค์จัดสร้าง: เพื่อสมสบทุนสร้างอาคารกุฏิรับรองสงฆ์ วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ และสมบททุนสร้างศาลาการเปรียญเอนกประสงค์ สำนักสงค์เขาสามล้าน จ.ชุมพร
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์พิธีกรรมวันมหามงคลศักดิ์สิทธิ์
พิธีพุทธาเทวาภิเษก วาระที่ 1 วันยี่เป็ง จันทร์ซ้อนจันทร์ 2 พฤศศจิกายน 2552 พิธีหุงสีผึ้งอิ่นแก้วมหาเสนห์ ณ วิหาร วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่
พิธีมหาพุทธาภิเษก วาระที่ 2 วันเป็งปุ๊ด วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2552 วันที่มหาเถระพระอุปคุตออกจากนิโรธกรรมใต้มหาสมุทร โดย 12 เกจิอาจารย์แห่งล้านนา ณ มณฑลพิธีมหาเจดีย์บรรจุพระธาตุ 9 ยอด วัดท่าจำปี พระอาจารย์สายกรรมฐาน และ พระเกจิอาจารย์ ร่วมปลุกเสกทั้งเทวาภิเษก และพุทธาภิเษก อาทิ
กุมารทองเป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับจิตวิญญาณที่มาของกุมารทองมาจากการเลี้ยงดูภูตผีปีศาจไว้ใช้งาน โดยกุมารทองจะเป็นวิญญานของเด็ก หากเป็นวิญญาณผู้หญิงคนที่เลี้ยงไว้จะเรียกว่าโหงพราย
กุมารทองนั้นแรกเริ่มเดิมทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่หรือที่เรียกว่าตายในท้องกลม ผู้มีวิชาอาคมจะไปนำพาวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก
จากหลักฐานที่พบในเอกสารโบราณระบุถึงการทำกุมารทองสรุปว่า ต้องหาศพที่ตายท้องกลมแล้วประกอบพิธีกรรมผ่าเอาศพทากรในท้องนั้นมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณแล้วจึงลงรักปิดทองให้ทั่วด้วยเตุนี้จึงเรียกว่า "กุมารทอง"
ต่อมาสภาพสังคมและวัฒนธรรมพัฒนาไปมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพทารกจริงๆได้ จึงได้มีการดัดแปลงกรรมวิธีในสร้างกุมารทองโดยใช้ดินเจ็ดป่าช้าบ้างไม้รักซ้อนหรือไม้มะยมบ้าง ไปจนถึงโลหะมาสร้างเป็นรูปกุมาร แล้วปลุกเสกตั้งจิต ตั้งธาตุทั้ง 4 และเรียกอาการสามสิบสองให้บังเกิดเป็นจิตวิญญาณของเด็กขึ้นมา
กุมารทองเป็นเครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่าเสมือนมีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปกุมารนั้น ผู้บูชาต้องดูแลเหมือนลูกของตน ต้องให้ข้าวน้ำเซ่นสรวง และต้องเรียกให้กิน้ขาวด้วยกล่าวกันว่าหากปฏิบัติดูแลดีกุมารทองก็จะช่วยค้ำคูณ อาทิ ช่วยคุ้มครองป้องกันเจ้าของและครอบครัวจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ไปจนถึงเตือนภัยล่วงหน้าอีกด้วย และจะคอยติดตามเฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้าย และศัตรูไม่ให้มากล้ำกลาย ปัจจุบันผู้บูชานิยมไหว้ด้วยน้ำแดง
กุมารทองของหลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดีนั้นเชื่อกันว่าเป็นกุมารเทพเป็นต้นแบบกุมารทองล้านนาจัดสร้างมา นานกว่า 30 ปี ท่านได้อัญเชิญดวงวิญญาณเทพจากสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าซึ่งต้องการมาช่วยมวลมนุษย์ให้เข้ามาประทับสถิต ฉะนั้นจึงมีแต่คุณ ไม่มีโทษแต่ประการใดทั้งสิ้น
ดังนั้น กุมารของท่าน ครูบาดวงดี จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยอิทธิฤทธิ์ และก่อเกิดปาฏิหารย์ แก่ผู้บูชาอย่างมากมาย
กุมารของครูบาเจ้าดวงดีเป็นต้นตำรับกุมารทองที่แรงที่สุดของภาคเหนือเลี้ยงไว้จะบรรดาลโชคลาภ ทำมาหากินเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง ช่วยค้าขายเป็นเทน้ำเทท่า คุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัย
คาถาบูชากุมารเทพดวงดี
จิเจรุนิ เจตะสิกัง รูปัง เทวะกุมาโรนัง นะมามิหัง อิทธิฤทธิ ประสิทธิเม (3 จบ)
กุมารเทพดวงดี (สัมฤทธิ์ชุบทอง) รุ่นดวงดีทวีทรัพย์ ปี53 หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี จัดสร้าง 1,999 ตน ใต้ฐานอุดผงดินศักดิ์สิทธิ์,ตะกรุดจิเจรุนิหัวใจกุมาร มีโค้ดและหมายเลขกำกับ