เพื่อหาปัจจัยบูรณะวัดปาซางพานิชสิทธิการามที่มีสภาพเสื่อมโทรมขณะนั้น
ครูบาธรรมวุฒิ ยังเป็นสหธรรมกับครูบาเจ้าศรีวิชัย และครูบาธรรมวุฒิเองก็ยังเป็นอาจารย์ของครูบาวัดพระพุทธบาทตากผ้าอีกด้วย ท่านนำเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย(เพราะในสมัยนั้นครูบาเจ้าท่านเป็นที่เคารพของคนทั่วทั้งภาคเหนือ บรรดาพระสหธรรมครูบาเจ้าศรีวิชัยทั้งหลาย และศิษย์ไกล้ชิดครูบาเจ้าทั้งหลายที่ทันครูบาเจ้าศรีวิชัยในยุคนั้นก็ได้เกษศาท่านครูบาเจ้าบูชาสักการะกันมากบ้าง น้อยบ้าง เพราะทุกคนเชื่อในคำว่า ต๋นบุญแห่งล้านนา)มาจัดสร้างเป็นพระพิพ์นางพญา และได้นิมนต์เหล่าบรรดาพระอริยะสงฆ์และพระเกจิทางสาย อ.ป่าซางมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกหลายท่านด้วยกัน
พระเกศาพิมพ์นางพญาชุดนี้บางส่วน ท่านพระครูพิศาล พุทธิธร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าซางงามได้นำพระเกศาพิมพ์นี้ มาแจกทำบุญที่วัดป่าซางงามอีกด้วย
การทำบุญทั้งหมดเพื่อนำปัจจัยทั้งหมดบูรณะวัดป่าซางพานิชย์ นักท่องเที่ยวที่สัญจรมาเที่ยวอำเภอป่าซาง ณ ขณะนั้น บางคนก็ทำบุญกันต่างได้รับพระเกศาชุดนี้กัน
จากตำนานเล่าขานกันสืบมาถึงการสร้างพระเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย มวลสารที่สร้างมักจะนำเอาผงเกสรและดอกไม้ต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้พระในโบสถ์ ในพระวิหารรวมถึงตามพระบรมธาตุจากที่ต่างๆ มาผสมกับดอกพิกุลหรือดอกแก้วที่ตากแห้งดีแล้ว ตลอดทั้งเถ้าธูปจากกระถางบูชาพระพุทธอันหมายถึงพระประธานในพระวิหารของวัด ที่เป็นผู้สร้างพระเกศานั้นๆ เมื่อได้มวลสารผงเกสรตลอดจนวัสดุมงคลครบถ้วนตามความเชื่อของศรัทธาชาวบ้านแล้ว ก็จะนำมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้ากับยางรักโดยมีผงใบลานที่เป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งคนล้านนาโบราณได้จารึกอักขระไว้ นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าปั้นเป็นก้อนเหนียวได้ตามประสงค์เจตนา จึงนำเอามากดลงบนแม่พิมพ์เป็นองค์พระเครื่อง โดยจะผสมเอาเส้นพระเกศาครูบาเจ้าฯ ลงไปก่อนจะกดลงพิมพ์บ้าง นำเอาเส้นพระเกศาผสมลงในเนื้อผงเกสรเลยก็มีจึงปรากฏในภายหลังของพระเครื่องเส้นเกศาฯ นี้ ด้วยบางองค์ก็จะเห็นเส้นพระเกศาชัดเจน บางองค์ก็จะไม่พบเส้นพระเกศาข้างนอกเลย