ฤาษีอิศวร หลังพระพิฆเนศ รุ่นไหว้ครู ปี53 วัดถ้ำแฝด จ.กาญจนบุรี
วัตถุประสงค์การจัดสร้างเพื่อสมทบทุนสร้างวิหารพระศรีอริยเมตไตรย วัดถ้ำแฝด จ.กาญจนบุรี
พิธีพุทธา-เทวาภิเษก 5-7 กุมภาพันธ์ 2553 โดย หลวงพ่อวัชระ วัดถ้ำแฝด,หลวงเตี่ย"สุรเสียง" วัดป่าเลิงจาน,ครูบาสุบิน เชียงใหม่,อ.วานิช วัดถ่ำแฝดซาร์บาร์
พระฤาษีอิศวร หรือ พระฤาษีศิวะเทพ พระองค์เป็นผู้ทรงคุณค่าด้วยพระบารมีอันมากล้นมุ่งแต่ส่งเสริมธรรมะ มุ่งจะทำลายอธรรมให้พินาศสิ้นมิให้หลงเหลืออยู่อีกเลยด้วยอำนาจและบารมีได้ แบ่งภาคลงมาเป็นพระมุนีภพผู้เป็นพระสวามีของพระสตีผู้เป็นธิดาของพระทักษะ ประชาบดี
เมื่อครั้งที่พระทักษะประชาบดีได้ทำพิธียัญญกรรมครั้งยิ่งใหญ่ก็ได้เชิญ บรรดาเขยทั้งหมดให้มาร่วมในพิธีมงคลครั้งนี้ทั้งหมด เว้นแต่พระมุนีภพเท่านั้น ทั้งยังประณามและประจานว่าแต่งตัวเป็นคนบ้า นุ่งผ้าบังสกุล ใช้กระดูกและกระโหลกคนเป็นสังวาลย์ หนวดเครา ผมเผ้ารุงรังน่าเกลียดชอบคบหาพวกภูติผีปีศาจ มั่วสุมกันในกลุ่มผีเป็นสมัครพรรคพวกดูแล้วไม่สมเกียรติอันใดแล้วก็ยังจะ สร้างความเสื่อมเสียให้ได้รับความอับอายขายหน้าอีกด้วย
พระสตีจึงมีความน้อยใจจึงทำลายชีวิตของตนเองด้วยการกระโดดลงไปในกองไฟที่ ใช้ในการทำพิธีนั่นเอง พระมุนีภพรู้เรื่องเข้าว่าพระชายาได้สิ้นใจตายไปแล้วด้วยความรักที่มีต่อพระ นางจึงมีความโกรธแค้นพ่อตา พระองค์จึงกระทำเทวฤทธิ์แบ่งภาคออกจากพระโอษฐ์เป็น พระวีรภัทร ปางนี้เรียกว่า"ปางวีรภัทร" ไปทำลายล้างพิธียัญญกรรมของพระทักษะประชาบดี ทรงแผลงศรวีรภัทรถูกเหล่าเทวดาล้มตายเป็นจำนวนมาก ศรีษะของพระทักษะประชาบดีขาดกระเด็น ด้วยความโกรธ พระวีรภัทรจึงโยนเอาศรีษะของพระทักษะประชาบดีเข้ากองไฟ มอดไหม้กลายเป็นเถ้าธุลีไป
ต่อมาภายหลังเหล่าเทวดาเสนาผู้ใหญ่ในสวรรค์ จึงมากราบทูลอ้อนวอนขอลุแก่โทษพระวีรภัทรจึงอภัยให้ กระทำเทวฤทธิ์ให้เทวดาที่ตายนั้นกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างเดิม แล้วตัดเอาหัวแพะต่อให้กับพระทักษะประชาบดีให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป แต่ใบหน้าและเศียรต้องกลายเป็นแพะ
และพระวีรภัทรก็กลับคืนร่างรวมตัวเข้าเป็นพระมุนีภพ แล้วเดินทางไปยังป่าหิมพานต์ทรงตั้งมั่นในการบำเพ็ญตบะสร้างพระบารมีต่อไป และก็เป็นที่รู้กันว่า พระฤษีอิศวรพระองค์นี้ก็คือ พระอิศวรหรือพระศิวะ นั่นเอง...
พระพิฆเนศวร หรือ พระพิฆเนศ หรือ พระวิฆเณศวร หรือ พระพิฆเณศ หรือ วิฆเนศ หรือ คณปติ เป็นเทพใน ศาสนาพราหมณ์ นับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง เป็นหัวหน้านำคณะข้ามความขัดข้อง (ผู้เป็นใหญ่เหนือความขัดข้อง) ในประเทศไทยจะเห็นอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ดูได้จากการพบรูปสลักพระพิฆเณศในเทวสถานตามเมืองต่างๆ ทั่วทั้งประเทศไทย เพราะท่านเป็นมหาเทพที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยมากที่สุดองค์หนึ่ง
พระพิฆเณศเป็นโอรสของพระอิศวรและพระนางอุมาเทวี มีรูปกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง ทุกคนเคารพนับถือท่านในฐานะที่ท่านเป็น "วิฆเนศ" นั่นคือ เจ้า (อิศ) แห่งอุปสรรค (วิฆณ)เพราะเจ้าแห่งอุปสรรคย่อมสามารถปลดปล่อยอุปสรรคได้ นัยหนึ่งท่านจึงเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จในทุกศาสตร์สรรพสิ่งหรือเทพเจ้า แห่งการเริ่มต้นใหม่ทั้งปวง เมื่อพิจารณาความหมายในทางสัญญะ รูปกายที่อ้วนพีนั้นหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เศียรที่เป็นช้างคือ ผู้มีปัญญามาก ตาที่เล็กคือ สามารถมอง แยกแยะสิ่งถูกผิด หูและจมูกที่ใหญ่หมายถึง มีสัมผัสพิจารณา ที่ดีเลิศ พระพิฆเณศมีพาหนะคือ หนู ซึ่งอาจเปรียบได้กับความคิด ความฝันของมนุษย์ที่พุ่งพล่าน รวดเร็ว ดังนั้น มนุษย์จึงต้องมี ีปัญญากำกับเป็นดั่งเจ้านายในใจตน
โดยคนไทยยอมรับในองค์พระพิฆเนศวรให้เป็นเทพแห่งศิลปะทั้งมวล และเป็นเทพองค์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งทางศาสนาพราหมณ์ได้สถาปนาพระพิฆเนศวร เป็นเทพพระองค์แรกที่ต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เป็นการคารวะในฐานะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป กิจการทุกอย่างจึงสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี
ปู่ฤาษีอิศวร หลังพระพิฆเนศ รุ่นไหว้ครูปี53 วัดถ้ำแฝด ขนาดสูง 2.9 ซ.ม. กว้าง 2.4 ซ.ม.