พระสมเด็จวัดระฆัง ชุดกรรมการเบญจภาคี โรยผงเก่า รุ่น141 ปี มหามงคล ปี56 วัดระฆังโฆสิตาราม (คณะ2) กรุงเทพฯ (1 ชุด มี 5 พิมพ์ หลังปั้มตราวัดระฆัง)
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่)
นับเป็นวัดสำคัญของไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช
จนถึง สมัยรัตนโกสินทร์ วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดระฆังโฆสิตาราม"
ในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดฯ ให้เปลี่ยนชื่อ วัดเป็น วัดราชคัณฑิยาราม แต่ไม่เป็นที่นิยมเรียก ยังคงเรียกวัดระฆังโฆสิตาราม มาจนถึงปัจจุบัน
ชื่อเสียงของวัดระฆังโฆสิตารามยิ่งขจรไกล เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด และได้จัดสร้าง พระสมเด็จวัดระฆัง "จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง" พระเนื้อผง ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมวลสารจากปูนเปลือกหอย ผสมผสานกับมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อาทิ ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห เกสรดอกไม้ถวายพระ ฯลฯ ใช้น้ำมันตั้งอิ้วเป็นตัวประสาน และปลุกเสกด้วย "พระคาถาชินบัญชร" ที่มีทั้ง พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์ฐานแซม และพิมพ์เกศบัวตูม ซึ่งยังคงดังกระฉ่อนเป็นที่ใฝ่ฝันหาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศมาจวบจน ปัจจุบัน
จากนั้นมาเมื่อทางวัดระฆังจัดสร้างวัตถุมงคลในโอกาสสำคัญต่างๆ ก็จะนำมวลสารของพระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณฯ ร่วมผสมเป็นมวลสารการจัดสร้าง รวมทั้งปลุกเสกด้วยพระคาถาชินบัญชรอันศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด และวัตถุมงคลทุกรุ่นก็ทรงพุทธคุณล้ำเลิศและได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชน ตลอดมา
ผู้รู้สันนิษฐานว่า เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆัง เริ่มสร้างพระสมเด็จมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จากอดีตสู่ปัจจุบัน พ.ศ.2415 - พ.ศ.2556
วาระโอกาสครบ 141 ปี คณะ 2 วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ได้จัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) รุ่น 141 ปีมหามงคลน้อมรำลึกในคุณูปการของสมเด็จฯ ผู้เป็นอริยะสงฆ์แก่กล้าด้วยวิทยาคมเป็นผู้สำเร็จวิชาสรตะโสฬส ที่มีเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น
พระสมเด็จวัดระฆังรุ่น 141 ปีมหามงคล พระสมเด็จวัดระฆัง คณะ 2 วัดระฆังโฆสิตาราม จัดสร้าง ได้นำมวลสารเก่า ผงเก่าวัดระฆัง ไม้ช่อฟ้าพระอุโบสถอายุ 100 กว่าปี มาเป็นชนวนมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นส่วนผสมในการจัดสร้างครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากเกจิคณาจารย์ทั่วประเทศมากกว่า 100 รุ่น ที่ผ่านการปลุกเสกในแต่ละวาระที่ได้รับมอบมาจัดสร้างครั้งนี้ และแผ่นจารยันต์ของพระเกจิคณาจารย์ทั่วประเทศอีกกว่า 100 รูป มาเป็นส่วนผสมสำคัญ รุ่น 141 ปีวัดระฆัง นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลที่น่าสะสม
พระสมเด็จรุ่นนี้ทำพิธีพุทธาภิเษกที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และยังได้ใช้ชื่อรุ่นเข้าทำเนียบสมเด็จวัดระฆังเป็นรุ่น 141 ปี จัดทำแบบพิมพ์ครบถ้วนตามพิมพ์พระสมเด็จ พร้อมทั้งการจัดสร้างพระกริ่งพรหมรังสี เนื้อทองคำ เงิน สัมฤทธิ์ ชนวน ซึ่งรูปแบบและพิธีเป็นพระที่น่าสะสมมาก ประกอบกับวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างนั้น เป็นมหากุศล
พิธีมหาพุทธาภิเษก วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2556 ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือนอ้าย ที่พระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร
ท่านเจ้าคุณเที่ยง เจ้าอาวาสวัดระฆัง เป็นประธานจุดเทียนชัย
ท่านเจ้าคุณสวง รองเจ้าอาวาส ดับเทียนชัย
พระเกจิคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
1. หลวงพ่อคง (พระอาจารย์สัญญา) วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
2. หลวงพี่เลี้ยง วัดจอมเกษ จ.อยุธยา
3. หลวงพ่ออาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
4. หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.อยุธยา
5. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
6. ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์
7. หลวงพ่อสมชาย เจ้าอาวาสวัดบางกระทิง
8. หลวงปู่พร้า วัดโค้กดอกไม้ จ.ชัยนาท
9. พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ สมุทรสงคราม
10. หลวงปู่นาม วัดน้อยชมพู จ.สุพรรณบุรี
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง : เพื่อนำรายได้ไปถมที่และสร้างศาลาปฏิบัติธรรม วัดบางกระทิง
พระสมเด็จวัดระฆัง ชุดกรรมการเบญจภาคี โรยผงเก่า หลังปั้มตราวัดระฆัง มี 5 พิมพ์ ประกอบด้วย
1. พิมพ์ใหญ่ทะลุซุ้ม
2. พิมพ์พระประธาน
3. พิมพ์เส้นด้าย
4. พิมพ์ฐานแซม
5. พิมพ์เกศบัวตูม