ไฉ่ซิ้งเอิ๊ยแปดเหลี่ยม เนื้อผงธูป ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายก

ไฉ่ซิ้งเอิ๊ยแปดเหลี่ยม เนื้อผงธูป ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายก
ไฉ่ซิ้งเอิ๊ยแปดเหลี่ยม เนื้อผงธูป ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายกไฉ่ซิ้งเอิ๊ยแปดเหลี่ยม เนื้อผงธูป ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายกไฉ่ซิ้งเอิ๊ยแปดเหลี่ยม เนื้อผงธูป ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายกไฉ่ซิ้งเอิ๊ยแปดเหลี่ยม เนื้อผงธูป ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายก
หมวดหมู่ พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายก
ราคา 0.00 บาท
ลงสินค้า 4 ก.พ. 2568
อัพเดทล่าสุด 5 ก.พ. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ไฉ่ซิ้งเอิ๊ยแปดเหลี่ยม เนื้อผงธูป ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายก

ครั้งแรกที่มีการจัดสร้างในรูปแบบและปาง ที่มีความเก่าแก่นับพันปี โดยใช้ความรู้ด้านโหราศาสตร์จีน ฮวงจุ้ยและศาสตร์ด้านพิธีกรรมชั้นสูง ตามหลักที่สืบทอดมานานตั้งแต่โบราณ

ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ และร่ำรวย ปางมหาเศรษฐีซัมภล เทพเจ้าที่คนจีนไหว้กันทั่วโลกเพื่อให้ "เฮง"

ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปางเศรษฐีชัมภล บูชาเพื่อขอโชคลาภ ความมีโชคดี ธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรือง มีโชคดีตลอดปี ค้าขายดีตลอดไป

ไฉ่ซิงเอี๊ย (Tsai Shen Yeh) คือเทพเจ้าแห่งโชคลาภของชาวจีน, ชัมภาลา (Jambhala) ของชาวธิเบต, คูเบร่า (Kubera) ของชาวฮินดู หรือ ท้าวเวสสุวรรณ (Vaisravana) ของฝ่ายหินยาน

กล่าวว่า เทพไฉ่ซิงเอี๊ย เป็นเทพผู้คุ้มครองทิศเหนือแห่งจตุโลกบาล ผู้เป็นเจ้าแห่งยักษ์ทั้งมวล เป็นลูกพี่ลูกน้องกับทศกันฑ์ ชื่อ คูเบร่า (Kubera) หรือ คูเวร่า (Kuvera) เป็นชื่อในชาติก่อนซึ่งเกิดในวรรณะพราห์ม มีที่ดินมากมาย และได้บริจาคที่ดินทั้งหมดให้เป็นทาน ทำให้ตายแล้วไปเกิดใหม่บนสวรรค์ด้วยความดีนี้เอง

เมื่อพระพุทธเจ้าได้ถือกำเนิดขึ้น ก็ได้ติดตามพระพุทธเจ้า โดยเป็นผู้นำสานส์จากสวรรค์มาแจ้งแก่บุคคลเบื้อล่าง เมื่อพระพุทธเจ้าได้ทรงออกแสวงธรรมในป่า คูเบร่าได้เห็นว่าอาจจะมียักษ์และผู้ที่ไม่มีความนับถือในพระพุทธเจ้า อาจจะมาทำร้ายพระพุทธเจ้าได้ จึงได้ลงมาจุติเป็นท้าวเวสสุวรรณ เพื่อคอยต่อสู้กับเหล่ายักษ์และอสูรทั้งหลาย จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ปกป้องพระธรรม ในวัดหลายๆแห่งจึงมีท้าวเวสสุวรรณอยู่ที่หน้าประตูวัดอยู่ด้วย

โดยทั่วไปแล้วไฉ่ซิงเอี๊ยจะพบในท่านั่งบนแท่นดอกบัว มีท้องใหญ่ท่อนบนเปลือเปล่า มี 3 ขาและฟัน 8 ซี่ มือข้างขวาถือร่มซึ่งแสดงถึงอำนาจในการปกครอง หรือบางทีจะเป็นแก้วมณี มือข้างซ้ายถือถุงสมบัติ หรือบางทีจะเป็นพังพอนเนื่องจากเชื่อว่าพังพอนเป็นศัตรูของ งู (สัตว์ที่มีความหมายถึงความเกลียดชัง ความละโมบ) โดยมีแก้วแหวนเงินทองไหลออกมาจากปากถุงหรือปากพังพอน

บางครั้งไฉ่ซิงเอี๊ยจะพบในท่านั่งบนหลังเสือหิมะ ซึ่งเป็นเจ้าแห่งสัตว์ในดินแดนส่วนเหนือที่ท่านดูแล

ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ มีความเก่าแก่ยาวนานและมีประวัติความเป็นมาที่สากล ปรากฏในหลายประเทศแถบทวีปเอเชีย แต่ของลัทธิเต๋านั้นมากำเนิดขึ้นภายหลังในประเทศจีน ซึ่งจะมีกึ่งตำนานกึ่งนิทานตามตำนานมหาเทพของจีน (ฮงสินปั้ง) ที่เป็นบุคคลธรรมดาต่อมาภายหลัง เมื่อเสียชึวิตจึงได้รับการยกเป็นเทพตัวอย่างเช่น เทพเจ้ากวนอู 

รูปลักษณะของเศรษฐีชัมภล

มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากเทพเจ้าองค์อื่นอย่างเห็นได้ชัดคือ มีลักษณะอวบอ้วนพุงพลุ้ย ใบหน้าใหญ่ ล่ำ มีความจริงจัง แต่แฝงไปด้วยความเมตตากรุณา ท่อนบนของท่านเปลือยเปล่า ประดับไปด้วยสร้อยสังวาล เพชรนิลจินดา กำไล ทั้งองค์เต็มไปด้วยอัญมณีล้ำค่า แสดงถึงความมั่งมีเงินทองทรัพย์สมบัติอย่างเหลือคณานับ บางที่จะประทับนั่งบนแท่นดอกบัวและห้อยพระบาทข้างหนึ่งเหยียบหอยสังข์ มือด้านหนึ่งถือแก้วมณี อีกด้านถือพังพอนไว้ และท่านจะบีบคอพังพอนให้พังพอนอ้าปากคายแก้วแหวนเงินทองออกมา อันเป็นเคล็ดลับโบราณที่กล่าวว่า ทรัพย์สมบัติทั้งมวลบนพื้นพิภพล้วนแล้วแต่อยู่ในผืนดิน ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ก็มาจากดิน จากน้ำใต้ดินทั้งนั้น แก้วแหวนเงินทองของมีค่าล้วนแล้วเกิดจากพื้นปฐพีทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่มีหน้าที่เฝ้าทรัพย์เหล่านั้นก็คือ เจ้าแห่งเมืองบาดาล โบราณกล่าวว่าคือ งู ดังนั้นสัตว์ที่แก้เคล็ดกับงูได้ก็คือพังพอนนั่นเอง โบราณจึงได้กำหนดรูปลักษณะของมหาเศรษฐีชัมภลไว้ตามที่ปรากฏในที่ต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีพังพอนเป็นสำคัญ

ตามพุทธสูตรกล่าวไว้ว่า "ขอเพียงแต่วาดภาพหรือแกะสลักรูปของมหาเศรษฐีชัมภล จะคิดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นสมดังใจปรารถนา เทวรูปมั่งคั่งองค์นี้ก็คือ เทพธนาของพระพุทธศาสนานิกายตันตระ (ในทิเบตคือนิกายลามะ) มีนามว่า"รัตนโกศ" มีหน้าที่ปกครองดูแลโภคทรัพย์ในแผ่นดินชื่อเต็มคือ "รัตนโกศ มหาพญายักษ์" ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมาและจะรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วอย่างมั่นคง"

ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปางมหาเศรษฐีชัมภล สำหรับในประเทศไทยมักเรียกท่านว่า ท้าวกุเวร ท้าวชุมพล บางแห่งจะเรียกท่านว่า "เจ้าพ่อขุมทรัพย์" เศรษฐีมหาเศรษฐี หลายคนในประเทศไทยและต่างประเทศก็มีการบูชาท่านมานานแล้วแม้แต่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งย่านราษฎร์บูรณะก็มีรูปหล่อของมหาเศรษฐีชัมภลนี้บูชา การบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภปางนี้นั้น นอกจากให้คุณทางด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติแล้วยังสามารถคุ้มครอง ป้องกันสิ่งอัปมงคลได้ทุกชนิด สามารถปัดเป่าพลังอำนาจที่ไม่ดีต่างๆ ออกไป ซึ่งคนโบราณค้นพบและหยั่งรู้ ในความหมาย จึงได้สร้างรูปเหมือนท่านไว้ทั่วทวีปเอเชียนานกว่าพันปี

เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปางมหาเศรษฐีชัมภล เจ้าสัวยุค 8

คำว่า"เจ้าสัว"หรือภาษาจีนเรียกว่า"จ่อซัว"หมายถึงผู้มีทรัพย์ ผู้อุปถัมภ์ หนุนนำวาสนาบารมี ความเจริญรุ่งเรือง มั่งมี ศรีสุข การตั้งชื่อ และการจัดสร้างใช้หลักจากตำแหน่งดวงดาวที่โคจร อันจะส่งพลังถึงโลกมนุษย์ ตามหลักฮวงจุ้ยซึ่งตั้งแต่ปี47 เป็นต้นไป

ฮวงจุ้ยโลกจะเข้าสู่ยุคที่ 8 เป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งในยุคที่ 8 นี้ตามหลักศาสตร์แล้ว จะเป็นยุคของความเจริญรุ่งเรืองในแถบเอเชีย ตั้งแต่ประเทศจีนลงมาเป็นลักษณะของมังกร พาดผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านไทยลงไปจนจรดทวีปออสเตรเลีย แต่เภทภัยที่มากับยุคแปดคือเรื่องโรคระบาด และภัยธรรมชาติ ดังจะเห็นว่าเกิดโรคไข้หวัดนก หวัดซาร์ แผ่นดินไหว น้ำท่วมและภัยธรรมชาติต่างๆ เป็นเครื่องบอกเหตุ ซึ่งต่อไปจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ยุคแปดนี้มีความหมาย เรียกอีกอย่างว่ายุคเปิดประตูผี คือจะมีการล้มตายกันเป็นจำนวนมาก

หลักของการแก้เคล็ดนั้น เทพเจ้าแห่งโชคลาภปางเศรษฐีชัมภล คือ องค์ท้าวเวสสุวรรณ ผู้เป็นจตุโลกบาล ซึ่งเป็นนายแห่งภูติฝีปีศาจทั้งปวง จึงมีอำนาจและเป็นใหญ่ในยุคแปดนี้ ทั้งยังเป็นผู้ประทานโชคลาภอีกด้วย

ตำแหน่ง"จ่อซัว" คือ ตำแหน่งของพลังที่เกื้อหนุนในทุกๆ ด้าน เป็นตำแหน่งแห่งโชคลาภ ความร่ำรวย และเทพเจ้าที่เหมาะสมกับตำแหน่งจ่อซัว มีเพียงองค์เดียว คือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิ้งเอี้ย ซึ่งเทพเจ้าแห่งโชคลาภนั้นมีอยู่หลายปาง อาทิเช่น

ปางบู๊ จะมีลักษณะในชุดขุนพลจีนขี่เสือ

ปางบุ๋น จะมีลักษณะแต่งกายแบบขุนนางจีน หน้ายิ้ม

และปางมหาเศรษฐี มีลักษณะแต่งกายชุดมหาราช แบบโบราณ มือซ้ายบีบพังพอน มือขวาถือรัตนมณี ซึ่งเป็นปางใหญ่ที่สุด

ในการจัดสร้างของพุทธสถานจีเต็มลิ้ม ได้อัญเชิญปางมหาเศรษฐีหรือปางมหาราชชัมภลมาจัดสร้างเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภประจำยุคแปด หนุนนำดวงชะตา การงาน การค้า ในยุคแปดนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองตาม หลักศาสตร์จีนโบราณ

รูปแบบของเหรียญ

ด้านหน้า : ออกแบบตามหลัก "โป๊ยช่วง" มีองค์เทพเจ้าแห่งโชคลาภอยู่ตรงกลาง ขอเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ตำแหน่งของดวงดาวโดยกำหนดยุคที่ 8 รับพลังแห่งความรุ่งเรือง

ด้านหลัง : ประดิษฐาน อักขระคาถาเทพเจ้าโชคลาภ "โอม ซัมภาลา จาเลนในเยน สวาหะ" ทิศทั้ง 8

ตรงกลาง : เป็นยันต์หัวใจเทพเจ้า แห่งโชคลาภของมหายานล้อมรอบด้วย 12 นักษัตร อันมีความหมายถึงความโชคดี มีความสุขทุกผู้ทุกนาม ค้างคาว 5 ตัวเป็นสัญลักษณ์มงคลของจีนเรียกว่า "โหงวอก" โชคลาภวาสนาความมั่งมีศรีสุข 

เหรียญนี้ออกแบบโดยใช้หลักวิชาตามศาสตร์จีนเหมือนกับ สื่อรับพลังจากฟ้าดิน
 
ไฉ่ซิ้งเอิ๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปางมหาเศรษฐีซัมภล ปี47 พุทธสถานจีเต็กลิ้ม จ.นครนายก

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี สุขาภิบาล 5 ออมทรัพย์



เพิ่มเพื่อน

หมวดหมู่

MEMBER

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านอมูเล็ทปุระ
อมูเล็ทปุระ
ให้เช่าบูชาวัตถุมงคล พระเครื่อง พระบูชา เทพ กุมารทอง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังทุกชนิด และธาตุกายสิทธิ์ เช่น เพชรพญานาค เหล็กไหลเขาอึมครึม แร่เกาะล้าน เพชรหน้าทั่ง
เบอร์โทร : 081-143-3341
อีเมล : amuletpura@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม