เสือพยุงแกะอุดกริ่ง พิมพ์จัมโบ้ (อ้าปาก) จารครบสูตร รุ่นไตรมาส ปี44 หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม (ทันหลวงพ่อ)
"พระอุดมประชานาถ" หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดบางพระ จ.นครปฐม
หลวงพ่อเปิ่นท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์มาตั้งแต่ท่านยังเป็นเด็กท่านได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งหลวงพ่อแดง ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี
หลวงพ่อเปิ่นท่านได้วิชาอาคมจากหลวงพ่อแดง มามากมาย(ขณะนั้นหลวงพ่อเปิ่นยังไม่ได้บวชเป็นพระ)และท่านได้วิชาการสักยันต์จากหลวงพ่อหิ่ม อย่างเต็มสูตรวิชา นอกจากนั้นท่านยังได้ขอตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อโอภาสี โดยได้ร่ำเรียนวิชามามากมายจากหลวงพ่อโอภาสี
และท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องของการ "สักยันต์" ชายชาตินักรบทั้งหลายในยุคนั้นได้เดินทางมาให้ท่านสักยันต์ลงบนเนื้อตัว
เคยมีคนที่เคยสักยันต์จากท่านได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว มีดผ่าตัดยังหั่นไม่เข้า ซึ่งก็เคยเป็นเรื่องราวที่เล่าขานต่อกันมาไม่รู้จักจบสิ้น และโด่งดังขึ้นอย่างสุดขีด ถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทย
วัตถุมงคลของหลวงพ่อเปิ่น มีผู้นำไปใช้แล้วเกิดประสบการณ์อภินิหารอยู่เสมอๆ ทั้งด้านเมตตามหานิยม ค้าขายคล่อง และมีโชคลาภอยู่เนืองๆ
โดยส่วนใหญ่วัตถุมงคลของท่านจะมีรูปเสือมาเกี่ยวข้อง บ้างก็ว่าท่านเกิดปีหมูจึงต้องแก้เคล็ดโดยการขี่เสือ แต่แท้จริงแล้วนั้นท่านชอบเสือ ด้วยเหตุผลที่หลวงพ่อท่านบอกไว้สั้นๆ ว่า...
"เสือ" เป็นสัตว์ที่มีอำนาจ เป็นเจ้าป่า เพียงเสียงคำรามของเสือสัตว์ทั้งหลายได้ยินก็สงบเงียบตื่นกลัว กลิ่นของเสือเมื่อสัตว์ทั้งหลายได้กลิ่นก็จะยอมหลีกหนีในทันที เสือจัดอยู่ในมหาอำนาจมหาบารมี มีรูปร่างท่วงท่าสง่างาม เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม แม้นเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่า "ดุร้าย"
หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ ท่านได้ละสังขารในวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕ เวลา ๑๐.๕๕ น. ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยอายุ ๗๙ ปี ๕๔ พรรษา สร้างความอาลัยแก่คณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้แล้วยังมีคติความเชื่ออย่างหนึ่ง เรื่องการบริกรรมคา เชื่อกันว่ามีคาถาอยู่ 3 บท ที่คนมักใช้บริกรรมเพื่อบังเกิดมีสง่าราศรีมีตบะเดชะ เป็นที่ครั่นคร้ามของคนทั้งปวงให้เกรงกลัวเช่น ไปพบผู้ใหญ่ เจ้านาย รวมทั้งหรือเผชิญศัตรู
บทแรกคือ คาถาพญาเสือโคร่ง ให้บริกรรมโดยเริ่มจากตั้งนะโม ๓ จบ และตามด้วย "พยัคโฆ พยัคฆา สัญ ญา ลัพ พะ ติ อิ ติ หิ หัม หึม"
บทที่สองคือ คาถาพญาเสือมหาอำนาจ ให้บริกรรมโดยเริ่มจากตั้งนะโม ๓ จบ "ตะมัตถัง ปะกาเสนโต ตัวกูคือ พญาพยัคโฆ สัตถาอาหะ พยัคโฆ จะ วิริยะ อิมังคาถามะหะ อิติ ฮ่ำ ฮึ่ม ฮึ่ม"
บทที่สามคือ ตั้งนะโม ๓ จบ ระลึกถึงหลวงพ่อเปิ่น แล้วว่าดังนี้ "กุรุสุกุ รุสุกุกุ สุกุกุรุ กุกุรุสุ"
อุปเท่ห์การใช้คาถาอาคมขลัง สิทธิการิยะท่านว่า หากพก "เสือ" นี้ติดตัวหรือห่อใส่ผ้าเช็ดหน้า นำติดตัวไปที่ใด หนทางใกล้ไกล หรือเดินทางเข้าป่าดงพงพี เผชิญฝูงสัตว์ร้ายและภูตผี จะมิกล้าทำอันตราย เป็นคงกระพันมหาอุดและแคล้วคลาดเป็นที่สุด
ถ้าหากนำติดตัวไปหนทางใกล้ไกล หรือเดินทางเข้าป่าดงพงพี เผชิญฝูงสัตว์ร้ายและภูตผี จะมิกล้าทำอันตรายใดๆ เป็นคงกระพันมหาอุดและแคล้วคลาดเป็นที่สุด
ผู้ที่ประกอบอาชีพรับราชการ หัวหน้างาน หรือทำงานการเมืองหากบูชาเสือมหาอำนาจจะเสริมบารมี ทำให้ก้าวหน้าเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ยกฐานะ มีอำนาจวาสนาสูง
ผู้ที่เป็นผู้น้อยหากบูชาเสือมหาอำนาจจะเป็นที่รักไว้วางใจของเจ้านาย ทำการใดจะสำเร็จ นำเกียรติยศชื่อเสียงมาให้วงศ์ตระกูล ช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูอุดหนุนให้ดวงดีเด่น