หมวดหมู่ | หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง |
ราคาปกติ | |
ลดเหลือ | 1,199.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 20 ก.ย. 2568 |
อัพเดทล่าสุด | 20 ก.ย. 2568 |
จำนวน | ชิ้น |
เมื่อปี พ.ศ.2517 วัดพลับพลา จ.นนทบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถแต่ขาดทุนทรัพย์ จึงคิดไปขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเกษม ขอสร้างเหรียญและพระผงรุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา และหลวงพ่อเกษมได้อนุญาตให้สร้างตามประสงค์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2517 ทางวัดพลับพลาโดยหลวงพ่อพระครูสิรินนทคุณ เจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น 3 รายการ คือ
เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำขึ้นไปให้หลวงพ่อเกษมปลุกเสก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2517 เวลา 19.39. น. ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ในขณะที่ปลุกเสกได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้น ซึ่งท่านพระครูสิรินนทคุณได้บันทึกไวัดังนี้
ในวันปลุกเสกนั้นเป็นเวลากลางคืน ทางเหนือหมดฝนแล้วได้ เวลาหลวงพ่อเกษมเดินออกจากกุฏิที่พักของท่าน พอมาถึงศาลามุงแฝก (หญ้าคา) ปะรำพิธีปลุกเสก คณะกรรมการและทุกคนในที่นั้นได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาวลำปางจึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า “รุ่นฟ้าลั่น” ปัจจุบันนี้ชาวลำปางเก่าๆยังจำชื่อ “รุ่นฟ้าลั่น” ได้
พระชุดนี้เริ่มออกจำหน่ายจ่ายแจก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2517 ที่วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ได้เงินสมทบจากพระชุดนี้จนสร้างพระอุโบสถวัดพลับพลาสำเร็จ
อยู่มาเมื่อปี 2536 ทางวัดได้จัดเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ ขาดทุนทรัพย์ จึงนำพระชุดนี้ในส่วนที่เหลือ คือเหรียญเนื้อทองแดงประมาณ 200 เหรียญ พร้อมพระผงปิดตาเขมโก และ พระผงรัตนเกษม ออกมาให้เช่าบูชาจนได้เงินค่าเขียนภาพจิตรกรรมสำเร็จ เงินที่เหลือจากค่าจ้างเขียนภาพก็นำไปสร้างโรงครัวและห้องน้ำ 18 ห้อง
หลังจากนั้นทางวัดได้นำพระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม หรือ พระผงรัตนเกษม ในส่วนที่เหลือออกให้เช่าบูชาอีกครั้ง โดยท่านพระครูสิรินนทคุณได้มีลิขิตอธิบายดังนี้ ข้าพเจ้าได้ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเกษมได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2539 ข้าพเจ้าได้รำลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่มีเมตตาต่อวัดพลับพลามาในอดีต คือได้เมตตาอนุญาตวัดพลับพลาจัดสร้างเหรียญและพระผงรูปเหมือนของหลวงพ่อเกษม เพื่อแจกจ่ายให้แก่คณะศรัทธาบริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จตามโครงการ ข้าพเจ้าจึงปรึกษากรรมการวัดว่า พวกเราควรหาทางตอบแทนพระคุณของท่านบ้าง เพื่อทำบุญอุทิศไปให้ท่าน จึงได้นำพระผงรัตนเกษมที่เก็บไว้จำนวน 2,000 องค์ ไปมอบให้ท่านประธานจัดงานศพ คือ เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เพื่อสมทบทุนมูลนิธิหลวงพ่อเกษม เขมโกต่อไป โดยมอบให้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2539 พร้อมรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายในวันนั้นด้วย
หลังจากเจ้าประเวทย์ได้รับมอบพระผงรัตนเกษมแล้ว ท่านคิดว่าการก่อสร้างของสุสานไตรลักษณ์หรือสิ่งอื่นภายในเมืองลำปาง โดยเฉพาะในสุสานไตรลักษณ์นั้นไม่มีอะไรจะปลูกสร้างแล้วหรือว่าจะสร้างต่อไป มูลนิธิของหลวงพ่อเกษมก็มีเพียงพอจึงปรึกษากันว่า สำหรับพระผงรัตนเกษม 2,000 องค์นี้ ควรจะได้สร้างอะไรสักอย่างที่เป็นอนุสรณ์ของหลวงพ่อเกษม ถวายให้วัดพลับพลา พอดีวัดพลับพลากำลังจะดำเนินการสร้างศาลาการเปรียญขนาด 10 x 15 เมตร อยู่ เนื่องจากของเก่าไม่พอต้อนรับประชาชนในเวลาเทศกาล เจ้าประเวทย์จึงเมตตามอบพระผงรัตนเกษมกลับคืนให้วัดพลับพลาเพื่อดำเนินการต่อไป และขอให้ตั้งชื่อศาลาการเปรียญว่า “ศาลาการเปรียญเขมโก” นี่ก็เป็นอันว่าพระผงรัตนเกษมที่เคยสร้างพระอุโบสถวันพลับพลาเมื่อ ปี พ.ศ.2517 จะได้กลับมาสร้างศาลาการเปรียญให้วัดพลับพลาอีกครั้งในปี พ.ศ.2539 หรือ 22 ปีให้หลัง